Janet Panita Promfang

Shoes Designer

There is no business like shoes bussiness
Tell us about flamingo Grand

จากเด็กหญิงที่ชอบหยิบรองเท้าของคุณแม่มาใส่เล่น จนกลายเป็นความรักในรองเท้า ถักทอความชอบ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ภัณฑิลาหรือ เจเน็ท เดินทางไปเรียนหลักสูตรการทำรองเท้าโดยเฉพาะที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

รองเท้าแห่งความสุข

หลังใช้เวลาเรียนหลักสูตรการทำรองเท้ากว่า 4 เดือนจบจบ เจเน็ทรับงานฟรีแลนซ์ออกแบบรองเท้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ จนกระทั่งอยากจะสร้างแบรนด์รองเท้าของตัวเอง จึงออกแบบ วางแพทเทิร์น เลือกวัสดุ ทำรองเท้าของตัวเองขึ้นมาภายใต้แบรนด์ “มาดามฟลามิงโก้” ขายในร้านเล็ก ๆ ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์ 

มาดามฟลามิงโก้ ในมุมมองของภัณฑิลา เป็นรองเท้าแนวโมเดิร์นวินเทจ ที่มีความโดดเด่นในแง่ของการเล่นสี และลวดลาย เหมาะกับหญิงสาวที่รักความสนุกสนาน ใช้ชีวิตแบบคนเมือง ขอบอิสระ แต่ก็ชอบสังคม กลายเป็นภาพของหญิงสาวที่สวมใส่รองเท้า “มาดามฟลามิงโก้” แต่งตัวเก๋ ๆ เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า 

“จากร้านที่สวนลุมไนต์ฯ ฟีดแบคดีมาก ลูกค้าให้ความสนใจกับสีสันที่เราเลือกให้ตัดกันอย่างมีสไตล์ รวมถึงรูปทรงที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ในราคาที่สามารถซื้อได้ ทำให้เราขยายตัวออกไปได้ดีมาก มีการวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ “เจเน็ทกล่าว

ความน่าสนใจอีกประเด็นคือ รองเท้าของมาดามฟลามิงโก เป็นงานทำมือ 100% โดยมีอาจารย์ด้านการทำแพทเทิร์นรองเท้ามาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งความยากอยู่ที่การออกแบบให้เหมาะกับรูปเท้า 

“รองเท้าทุกแบบทุกคู่ จะต้องลองสวมใส่เอง เพื่อดูว่า เดินแล้วหลุดส้นหรือไม่ ใส่สบายหรือไม่ ที่สำคัญ แต่ละแบบที่ดีไซน์ขึ้น เจเน็ทเองต้องชอบและอยากที่จะใส่ จึงจะทำขึ้นมา หากแบบไหนไม่ชอบ ใส่ไม่สวย ก็จะไม่ทำ” เธอย้ำความใส่ใจ

เธอชี้ว่า รองเท้าของเราจะไม่ตามเทรนด์ เพราะงานถูกดีไซน์ออกมาให้คลาสสิก ในขณะเดียวกัน ลูกค้าก็จะเลือกซื้อจากความชอบในทรงและสีของรองเท้ามากกว่า ทำให้ดีไซน์ของเราขายได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอเทรนด์

หลายคนมองว่า รองเท้าสีสดขายยาก แต่ในมุมมองของคนออกแบบรองเท้าที่ทำขายมาหลายปี เจเน็ทพบว่า ปัจจุบัน สาว ๆ ใส่ส้นสูงมากขึ้น ที่สำคัญ กล้าที่จะเล่นสีกับเครื่องแต่งกาย ทำให้หลายคนเริ่มมองหารองเท้าที่ไม่ใช่สีดำมากขึ้นเรื่อย ๆ 

“ตอนนี้รุ่นที่ขายดีที่สุดของเราคือ รุ่นที่สีตัดกัน เพราะสาว ๆ แต่งตัวเก่งขึ้น มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น” เธออธิบาย 
 ปัจจุบัน มาดามฟลามิงโก้มีดีไซน์เยอะขึ้น แบบรองเท้าหลากหลายมากขึ้น รายละเอียดมากขึ้น และเริ่มประยุกต์ใช้วัสดุใหม่ ๆ เช่น หนังแท้ ทั้งคอลเล็คชั่นใหม่ เจเน็ทแย้มว่า จะเพิ่มในส่วนของคลิปรองเท้า ซึ่งจะเป็นแอคเซสซารี่ที่ลูกค้าสามารถออกแบบ ตกแต่งรองเท้าของตัวเองให้มีสีสันมากขึ้น

มาดามโกอินเตอร์ 

จากธุรกิจที่เธอคุมบังเหียนด้วยตัวเธอเอง เจเน็ทเริ่มวางแผนธุรกิจ พร้อมกับรับพนักงานในตำแหน่งสำคัญคือ ผู้จัดการแบรนด์ และผู้จัดการด้านประสานงานผลิตภัณฑ์ เพื่อเตรียมตัวขยายธุรกิจ 

เป้าการเจริญเติบโต 15-20% จากเดิม ที่เจเน็ทวางเอาไว้จะมาจากการขยายตัวดังกล่าวทั้งในแง่ของหน้าร้านมาดามฟลามิงโก้ ที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ในย่านทองหล่อ ในขณะเดียวกัน ก็จะเพิ่มปริมาณการผลิต พร้อมเสริมด้วยเครื่องจักร เพื่อสอดรับกับการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ด้วยการออกงานแฟร์ในฝรั่งเศส ปี 2555 ที่จะถึงนี้ 

“สำหรับตลาดต่างประเทศ เราส่งออกรองเท้าไปยังร้านเสื้อผ้า SKUNKFUNK ที่มีมากกว่า 150 สาขาในยุโรป ภายใต้ชื่อแบรนด์ SKUNKFUNK by Madame Flamingo อยู่แล้ว แต่จะกระจายสินค้าและเพิ่มปริมาณยอดขายในต่างประเทศให้ได้” เจเน็ทกล่าวพร้อมชี้ว่า สำหรับลูกค้าในประเทศ เราจะมีบริการใหม่ ให้ลูกค้าสามารถเลือกสีที่ชอบผ่านเว็บไซต์ เพื่อสร้างความพรีเมี่ยมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะคน

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าเพิ่มในส่วนของรองเท้าแบบยูนิเซ็กส์ ที่ชายก็ใส่ได้ หญิงก็ใส่ดี และรองเท้าสำหรับงานแต่งงาน ในชื่อไลน์ Madame Flamingo I Do ซึ่งจะเป็นรองเท้าแบบสั่งตัดเฉพาะ ที่เจเน็ทมองว่า จุดแข็งของการทำแบบแฮนด์เมด ทำให้เราทำได้ แม้จะเป็นรองเท้าเพียง 1 คู่ บวกกับที่ตั้งของหน้าร้านที่อยู่บนถนนทองหล่อ ย่านเดียวกับเวดดิ้งสตูดิโอมากมาย โอกาสที่จะมีลูกค้าเป็นเจ้าสาวที่อยากได้รองเท้าสำหรับงานแต่งงานของตัวเองในรูปแบบที่ชอบ ไม่ยึดติดกับแบบเดิม ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้น

ระยะเวลา 3 ปีสำหรับมาดามฟลามิงโก้ เจเน็ทมองเป็นเส้นทางการเรียนรู้ด้านธุรกิจที่มาจากงานดีไซน์ที่เป็นความชอบของเธอเอง เธอหวังที่จะพัฒนางานดีไซน์รองเท้าให้หลากหลาย ในขณะเดียวกันก็ใฝ่ฝันที่จะเปิดร้านหรือขายแฟรนไชน์ออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า แบรนด์ของมาดามฟลามิงโก้ให้เป็นสิ่งที่ได้รับการตอบรับทั้งในและต่างประเทศ